เหล้าไทย ความเป็นมาของเหล้าไทย วิธีการผลิตเหล้าไทย
เหล้าไทย ความเป็นมาของเหล้าไทย เหล้าไทยในยุคปัจจุบัน ได้รับความนิมยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะ เหล้าขาวไทย เพราะเป็นเหล้าค่อนมีราคาค่อนข้างถูก วันนี้ thai-brandy.com จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเหล้าไทยให้มากขึ้น ถ้าพร้อมแล้ว ไปรับชมพร้อมกันได้เลย

ขอบคุณรูปภาพจาก wongnai.com
ความเป็นมาของเหล้าพื้นบ้าน เหล้าไทย
สุราหรือเหล้าคือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ชนิดเอทิลแอลกอฮอล์ ความเป็นมาของเหล้านี้มีอยู่มานานในสังคมไทย แม้ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าคนไทยได้รู้จักเหล้าเมื่อไหร่ แต่ในประวัติศาสตร์นั้นกล่าวถึงเหล้าว่า พระมหากษัตริย์และนักรบไทยในอดีตนิยมดื่มเหล้าเพื่อเรียกกำลังใจก่อนออกศึก และหลังจากการศึกษาเสร็จสิ้น เหล้ายังคงได้รับความนิยม
การผลิตเหล้าของคนไทยไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าเริ่มต้นเมื่อไหร่ แต่มีการพูดถึงในหลักศิลาจารึกสมัยลพบุรี เมื่อทศวรรษที่ 16 ว่าใช้เหล้าในการประกอบพิธีบวงสรวงเทพเจ้า และนิยมผลิตเหล้าเพื่อดื่มภายในครอบครัว ไม่ได้ผลิตเพื่อขาย
การต้มเหล้าของคนไทยเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อมีกลุ่มชาวจีนอพยพมาอยู่ที่ไทย คนไทยจึงได้รู้จักกับการดื่มสุราจากโรงต้มกลั่นที่เรียกว่า “เหล้าโรง” ตั้งแต่สมัยสุดท้ายของอยุธยา และต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์.
ชนิดของเหล้าไทย ประเภทของเหล้าไทย
เหล้าพื้นบ้านเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตจากวัตถุดิบตามธรรมชาติ เช่น ข้าว ข้าวเหนียว ข้าวโพด อ้อย มะพร้าว เป็นต้น โดยใช้วิธีการหมักและบ่มด้วยเชื้อยีสต์ เหล้าพื้นบ้านมีการผลิตมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยโบราณ สันนิษฐานว่าเกิดขึ้นจากการค้นพบกระบวนการหมักโดยบังเอิญของมนุษย์ โดยในสมัยก่อนเหล้าพื้นบ้านไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังใช้เป็นยารักษาโรคและเป็นเครื่องประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอีกด้วย
ในประเทศไทย เหล้าพื้นบ้านมีหลากหลายชนิด แต่ละชนิดมีชื่อเรียกและวิธีการผลิตที่แตกต่างกันไป เช่น
- อุ เป็นเหล้าพื้นบ้านชนิดหนึ่งที่มีรสชาติเข้มข้น ผลิตจากข้าวเหนียวหรือข้าวจ้าวหมักด้วยเชื้อข้าวหมัก นำไปหมักในไหอีก 1-2 เดือน
- สาโท เป็นเหล้าพื้นบ้านชนิดหนึ่งที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ผลิตจากข้าวหรือข้าวเหนียวหมักด้วยเชื้อข้าวหมัก นำไปหมักในภาชนะปิดสนิทประมาณ 1-2 สัปดาห์
- กะแช่ เป็นเหล้าพื้นบ้านชนิดหนึ่งที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ผลิตจากน้ำตาลจากจั่นมะพร้าวหรือต้นตาลโตนดหมักด้วยเชื้อข้าวหมัก นำไปแช่ในถังไม้พร้อมกับไม้มะเกลือ
- เหล้าขาว หรือ เหล้ากลั่น เป็นเหล้าพื้นบ้านชนิดหนึ่งที่มีรสชาติแรง ผลิตจากข้าวหรือข้าวโพดหมักด้วยเชื้อข้าวหมัก นำไปกลั่นจนได้แอลกอฮอล์บริสุทธิ์
- ยาดอง หรือ เหล้าดอง
เป็นเครื่องดื่มประเภทเดียวกัน เพียงแต่ยาดองมีส่วนผสมของสมุนไพร ในขณะที่เหล้าดองมีส่วนผสมของผลไม้หรือวัตถุดิบอื่นๆ เท่านั้น
ยาดองเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดยการนำสมุนไพรมาแช่ในเหล้าหรือแอลกอฮอล์ เพื่อดึงเอาสารออกฤทธิ์ของสมุนไพรออกมา ยาดองมีสรรพคุณตามฤทธิ์ของสมุนไพร เช่น บำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย บำรุงโลหิต เป็นต้น
ในปัจจุบัน เหล้าพื้นบ้านยังคงเป็นเครื่องดื่มที่นิยมดื่มกันอยู่ โดยเฉพาะในชนบท เหล้าพื้นบ้านเป็นเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นของไทยได้เป็นอย่างดี
สาโท หรือ น้ำขาว เหล้าไทย

สาโท และ น้ำขาว เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พื้นบ้านชนิดหนึ่งของประเทศไทย แต่มีความแตกต่างที่สำคัญดังนี้
สาโท เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตจากข้าวหรือข้าวเหนียวหมักด้วยเชื้อข้าวหมัก นำไปหมักในภาชนะปิดสนิทประมาณ 1-2 สัปดาห์ สาโทมีปริมาณแอลกอฮอล์ประมาณ 5-10 ดีกรี รสชาติหวานอมเปรี้ยว
น้ำขาว เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตจากข้าวหรือข้าวโพดหมักด้วยเชื้อข้าวหมัก นำไปกลั่นจนได้แอลกอฮอล์บริสุทธิ์ น้ำขาวมีปริมาณแอลกอฮอล์ประมาณ 35-40 ดีกรี รสชาติแรง
ตารางสรุปความแตกต่างระหว่างสาโท และ น้ำขาว
คุณสมบัติ | สาโท | น้ำขาว |
---|---|---|
วัตถุดิบ | ข้าวหรือข้าวเหนียว | ข้าวหรือข้าวโพด |
กระบวนการผลิต | หมักด้วยเชื้อข้าวหมัก | หมักด้วยเชื้อข้าวหมัก แล้วกลั่น |
ปริมาณแอลกอฮอล์ | 5-10 ดีกรี | 35-40 ดีกรี |
รสชาติ | หวานอมเปรี้ยว | แรง |
นิยมดื่ม | ภาคอีสาน | ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ |
อุ หรือ เหล้าไห เหล้าไทย

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.silpa-mag.com/culture/article_36143wongnai.com
อุ หรือ เหล้าไห เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พื้นบ้านชนิดหนึ่งที่มีรสชาติหวานกลมกล่อม มีดีกรีอยู่ที่ 5-10 ดีกรี อุเป็นเครื่องดื่มที่ผลิตจากข้าวเหนียวหรือข้าวจ้าวหมักด้วยเชื้อข้าวหมัก นำไปหมักในไหอีก 1-2 เดือน
อุมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น เช่น ในภาคอีสานเรียกว่า อุ ภาคกลางเรียกว่า เหล้าไห ภาคเหนือเรียกว่า เหล้าข้าวเหนียว ภาคใต้เรียกว่า เหล้าแดง เป็นต้น
อุเป็นเครื่องดื่มที่นิยมดื่มกันมากในภาคอีสาน โดยมักดื่มในงานบุญหรือเทศกาลต่างๆ อุมีสรรพคุณตามความเชื่อของชาวบ้าน เช่น ช่วยบำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย และช่วยย่อยอาหาร เป็นต้น
ขั้นตอนการทำอุมีดังนี้
- นำข้าวเหนียวหรือข้าวจ้าวมาล้างให้สะอาด แล้วนำไปนึ่งจนสุก
- ปล่อยให้ข้าวเย็นลง แล้วนำมาคลุกเคล้ากับลูกแป้งอุ
- ใส่ข้าวที่ผสมลูกแป้งลงในไห แล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 1-2 เดือน
- เมื่อครบกำหนดแล้ว ให้เปิดไหเพื่อระบายแกลบออก
- กรองอุให้สะอาด แล้วบรรจุลงในขวดหรือภาชนะสำหรับเก็บไว้บริโภค
อุเป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นของไทยได้เป็นอย่างดี
เหล้าขาว หรือ เหล้ากลั่น

ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.blockdit.com
เหล้าขาว และเหล้ากลั่น หมายถึงสิ่งเดียวกัน นั่นคือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้จากการหมักน้ำตาลจากข้าว ข้าวโพด หรืออ้อย แล้วนำไปกลั่นเพื่อให้มีดีกรีสูงขึ้น เหล้าขาวโดยทั่วไปจะมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิน 40 ดีกรี แต่อาจมีบางชนิดที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 80 ดีกรี ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการผลิต
ในภาษาไทย คำว่า “เหล้าขาว” มักใช้เรียกเหล้ากลั่นที่ผลิตในเชิงอุตสาหกรรม โดยมีมาตรฐานการผลิตที่ชัดเจน ส่วนคำว่า “เหล้ากลั่น” มักใช้เรียกเหล้ากลั่นที่ผลิตในเชิงพื้นบ้าน โดยอาจไม่มีมาตรฐานการผลิตที่ชัดเจน
ตัวอย่างเหล้าขาวที่เป็นที่รู้จักในประเทศไทย ได้แก่ เหล้าขาวตราม้าลาย เหล้าขาวตราช้าง เหล้าขาวตรามือ เป็นต้น
ความแตกต่างระหว่างเหล้าขาวกับเหล้าประเภทอื่นๆ ที่สำคัญ ได้แก่
- กระบวนการผลิต เหล้าขาวผลิตจากการหมักน้ำตาลจากข้าว ข้าวโพด หรืออ้อย แล้วนำไปกลั่น ในขณะที่เหล้าอื่นๆ เช่น เบียร์ ไวน์ วิสกี้ วอดก้า ผลิตจากการหมักข้าวบาร์เลย์ องุ่น ข้าวไรย์ ข้าวโพด เป็นต้น
- ปริมาณแอลกอฮอล์ เหล้าขาวโดยทั่วไปจะมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิน 40 ดีกรี ในขณะที่เหล้าประเภทอื่นๆ เช่น เบียร์ ไวน์ วิสกี้ วอดก้า อาจมีปริมาณแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 3% ถึง 60%
- รสชาติ เหล้าขาวมีรสชาติที่ค่อนข้างอ่อน ออกหวานเล็กน้อย ในขณะที่เหล้าประเภทอื่นๆ เช่น เบียร์ ไวน์ วิสกี้ วอดก้า มีรสชาติที่เข้มข้นกว่า
- สี เหล้าขาวโดยทั่วไปจะมีสีใส ในขณะที่เหล้าประเภทอื่นๆ เช่น เบียร์ ไวน์ วิสกี้ วอดก้า อาจมีสีต่างๆ เช่น สีเหลือง สีทอง สีน้ำตาล เป็นต้น
ทั้งนี้ เหล้าขาวเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีโทษต่อสุขภาพ หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการเมาสุรา อุบัติเหตุ ปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น โรคตับ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง เป็นต้น ดังนั้น ควรดื่มเหล้าขาวอย่างมีสติและรับผิดชอบ
กะแช่ หรือ น้ำตาลเมา เหล้าไทย

ขอบคุณรูปภาพจาก https://food.trueid.net
กะแช่ หรือ น้ำตาลเมา เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พื้นบ้านของไทย ที่ได้จากการหมักน้ำตาลสด โดยใช้จุลินทรีย์จากเปลือกไม้บางชนิด เช่น เปลือกมะม่วงหิมพานต์ เปลือกพะยอม เปลือกไม้เคี่ยม เป็นต้น ใช้เวลาในการหมักประมาณ 2-7 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ กะแช่มีปริมาณแอลกอฮอล์ประมาณ 10-15 ดีกรี มีลักษณะขุ่น มีฟอง ดื่มแล้วซ่าลิ้นเล็กน้อย รสหอมหวานมีรสเฝื่อนเล็กน้อย
กะแช่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในภาคใต้ของประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และชุมพร กะแช่มักนิยมดื่มแบบเย็นๆ กับน้ำแข็งหรือผสมกับน้ำผลไม้ เช่น น้ำมะนาว น้ำส้ม เป็นต้น
วิธีทำกะแช่
ส่วนผสม
- น้ำตาลสด 1 ลิตร
- เปลือกไม้เคี่ยมหรือเปลือกพะยอม 200 กรัม
- น้ำสะอาด 1 ลิตร
วิธีทำ
- ล้างเปลือกไม้เคี่ยมหรือเปลือกพะยอมให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
- ใส่น้ำตาลสด เปลือกไม้เคี่ยม และน้ำสะอาดลงในขวดโหล
- ปิดฝาขวดโหลให้สนิท แล้วหมักไว้ประมาณ 2-7 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
- เมื่อกะแช่หมักได้ที่แล้ว กรองเอาเปลือกไม้ออก แล้วนำไปแช่เย็นหรือผสมกับน้ำผลไม้ตามชอบ
ประโยชน์ของกะแช่
กะแช่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เนื่องจากมีน้ำตาลและวิตามินต่างๆ อยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม การดื่มกะแช่ในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนั้น ควรดื่มอย่างมีสติและรับผิดชอบ
ยาดอง หรือ เหล้าดอง

ขอบคุณรูปภาพจาก www.wineandabout
ยาดอง และเหล้าดอง เป็นคำที่มักใช้เรียกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกิดจากการดองสมุนไพรหรือวัตถุดิบอื่นๆ ในเหล้าหรือแอลกอฮอล์ คำว่า “ยา” ในที่นี้ หมายถึง สมุนไพรหรือวัตถุดิบที่มีสรรพคุณทางยา ซึ่งเมื่อนำมาดองกับเหล้าหรือแอลกอฮอล์แล้ว จะสามารถสกัดเอาสารออกฤทธิ์ของสมุนไพรหรือวัตถุดิบออกมา ทำให้เครื่องดื่มมีสรรพคุณทางยาเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยาดอง และเหล้าดอง อาจมีความหมายที่แตกต่างกันเล็กน้อย ดังนี้
- ยาดอง หมายถึง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกิดจากการดองสมุนไพรหรือวัตถุดิบอื่นๆ ในเหล้าหรือแอลกอฮอล์ โดยเน้นที่สรรพคุณทางยาของสมุนไพรหรือวัตถุดิบเป็นหลัก เช่น ยาดองม้ากระทืบโรง ยาดองกำลังช้างสาร เป็นต้น
- เหล้าดอง หมายถึง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกิดจากการดองสมุนไพรหรือวัตถุดิบอื่นๆ ในเหล้าหรือแอลกอฮอล์ โดยอาจเน้นที่รสชาติหรือความแปลกใหม่ของเครื่องดื่มเป็นหลัก เช่น เหล้าดองผลไม้ เหล้าดองปลา เป็นต้น
ตัวอย่างยาดอง และเหล้าดอง ในประเทศไทย ได้แก่
- ยาดองม้ากระทืบโรง เป็นยาดองยอดนิยมที่เชื่อว่ามีสรรพคุณบำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย
- ยาดองกำลังช้างสาร เป็นยาดองอีกชนิดที่เชื่อว่ามีสรรพคุณบำรุงกำลัง เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
- เหล้าดองผลไม้ เป็นเหล้าดองที่นิยมดองผลไม้ต่างๆ เช่น มะม่วง ลำไย เงาะ เป็นต้น ทำให้มีรสชาติหวานหอม
ทั้งนี้ การดื่มยาดอง และเหล้าดอง แม้จะมีประโยชน์ทางยา แต่หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน ดังนั้น ควรดื่มอย่างมีสติและรับผิดชอบ
ติดตามเหล้าไทยได้ที่ :: รีวิวเหล้าไทย